วันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Tasty Congee & Noodle Wantun Shop

หากจะปิดท้ายความอาหย่อยที่ฮ่องกงอย่างสมบูรณ์ ต้องร้านนี้เลยค่ะ เพราะเป็นร้านที่อยู่ที่สนามบินนั่นเอง หมูน้อยแนะนำให้แบ่งเวลาให้ที่สนามบินนี้ซัก 2-3 ชั่วโมงค่ะ นอกจากจะมีร้าน brand name ราคาถูกให้ shopping กันนาทีสุดท้ายแล้ว ยังมีร้านอาหารอร่อยให้กินก่อนขึ้นเครื่องด้วยน๊า พอมาถึง terminal 1 ปุ๊ปอย่าได้เสียเวลาหาร้านอร่อย รีบ check in แล้วลงไปที่ Immigration เลย ของดีๆ รอเราอยู่หลังตม. ค่าาาาา ตอนไปครั้งแรกหมูน้อยก็เดินวนหาของ shopping หาของกินอยู่ด้านนอก ขอบอกว่าเสียดายเวลามาก ร้านอาหารใน Food Court ตรงชั้น 6 ม่ายหย่อยเบย

พอผ่าน Immigration มาแล้วให้ขึ้นมาที่ชั้น 7 นะคะ ที่นี่จะมี Food Court ขนาดหญ่ายยย ผู้โดยสารจะได้ท้องอิ่มก่อนออกเดินทาง จริงๆ มีร้านอาหารอยู่หลากหลายให้เลือกกิน แต่ร้านโปรดของหมูน้อยต้องร้านนี้เท่านั้น Tasty Congee & Noodle Wantun Shop ตามรูป TCN1 ร้านจะอยู่ที่เบอร์ 24 บริเวณตรงกลาง Hall เลยค่ะ


TCN1 ร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun Shop หมายเลข 24 สีเขียว 

TCN2 บริเวณหน้าร้าน มีเมนูแนะนำพร้อมรูปประกอบ


TCN3 Counter สั่งอาหาร


TCN4 เมนูร้าน Tasty Congee & Noodle Wantun Shop

เมนูแนะนำคือโจ๊กลูกชิ้นปลา Fresh Fish Balls Congee เนื้อโจ๊กของร้านนี้ไม่ได้ละเอียดเท่า Nathan Congee & Noodle คือจะมีส่วนที่เป็นเมล็ดข้าวอยู่ด้วย แต่ก็เคี่ยวมาจนตัวข้าวบานแตกและนิ่ม เอกลักษณ์ของร้านนี้คือจะโรยหน้าโจ๊กด้วยถั่วลิสงคั่วเกลือหอมๆ ลูกชิ้นปลาผสมสาหร่ายทั้งสดทั้งหวาน เด้งดึ๋งๆ เป็นการสั่งลาโจ๊กฮ่องกงก่อนกลับประเทศได้อย่างน่าประทับใจจริงๆ ค่ะ


TCN5  Fresh Fish Balls Congee

นอกจากนี้ยังมีอาหารจีนนานาชนิดให้เลือกกินอีกเยอะแยะ ตามเมนูนั่นแหละค่ะ ทั้งฟองเต้าหู้ทอดใส้กุ้ง ก๊วยเตี๋ยวหลอดใส้หมูแดง หรือทาร์ตไข่ เป็นต้น


TCN6 Fry Bean Curd Sheet Rolls with Shrimps

TCN7 Steamed Honey BBQ Pork Rolls
TCN8 Egg Custard Bun with Running Sauce Filling

ท้องอิ่มกันแล้วค่อยลงไป shopping PRADA, Versace, CHANEL, Hermes ฯลฯ ที่ชั้น 6 ต่อก่อนขึ้นเครื่องค่าาาาาาาา
*
*
*
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการรับประทานเหมือนหมูน้อยนะคะ
ติดตามภาพ Behind the screen ได้ที่ 
IG: @aryoihongkong










วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Hui Lau Shan

ไปฮ่องกงใหม่ๆ หมูน้อยก็มุ่งมั่นว่าฉันจะต้องกินชานมฮ่องกงไข่มุกแสนอร่อยของฮ่องกงให้ได้ ก็เห็นมีขายอยู่เต็มประเทศไทยนี่นา แสดงว่าของ original มันต้องอาหย่อยม๊วกแน่ๆ แต่บอกตามตรงว่ายังไม่ประทับใจร้านไหนเบยยยย

ตามหาชานมในฝันไปเรื่อย จนมาในคืนหนึ่ง หมูน้อยเจอกับเรื่องน่าประหลาดใจ อากาศก็หน๊าวหนาวแต่กลับมีคนยืนต่อคิวซื้อน้ำผลไม้ปั่นกันอยู่เต็มหน้าร้าน Hui Lau Shan ยังไงหนอ ไม่หนาวกันรึไง จะกินน้ำปั่นกันตอนอากาศเย็นขนาดนี้เนี๊ยะนะ ถ้าเป็นตอนกลางวันร้อนๆ ก็ว่าไปอย่าง หมูน้อยเลยลองเดินเข้าไปดูเมนู มีอะไรดีน๊าร้านนี้

เขาบอกว่าร้านเขามีเมนูยอดนิยมคือ "น้ำมะม่วงปั่น" เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย มะม่วงปั่น! ผลไม้ที่ฉันกินกับข้าวเหนียวมูลราดหน้าด้วยน้ำกะทิเนี๊ยะนะ มะม่วง! ที่สุกๆเละๆ แล้วเอามาปั่นจนเละแล้วเละอีกอ่ะนะ แล้ว แล้ว แล้วดูดกินเนี๊ยะนะ กรี๊ดดดด รับไม่ได้ มันคงจะอุแหวะน่าดู หมูน้อยนึกในใจ แต่ด้วยความอยากลองของที่ปวงประชานิยม เอาก็เอา ในเมื่ออกหักกับชานมมาหลายแก้วแระ สั่งเมนูมะม่วงปั่นเย็นลี่มะม่วงมากระแทกปากซะหน่อย

HLS1 ร้านมะม่วงปั่น Hui Lau Shan

อ่า ฮ่า ความรู้สึกแรกหลังจากที่ดูดเยลลี่และน้ำมะม่วงปั่นเข้าปาก มันไม่ได้น่าสะอิดสะเอียนอย่างที่คิดไว้ตอนแรก แต่มันช่าง...อร่อยมว๊ากกกกก ทั้งหอมทั้งหวาน ความหวานที่สัมผัสได้เป็นรสหวานของมะม่วงตามธรรมชาติ ไม่ใช้รสหรือกลิ่นมะม่วงสังเคราะห์ เยลลี่ก็เป็นรสมะม่วงหวานๆ เคี้ยวหนึบๆ อาหย่อยจุง น้ำแข็งถูกปั่นจนเนียนละเอียด และไม่มีกากใยมะม่วงให้ติดเหงือกติดฟันจนน่ารำคาญใจอีกด้วย

เมนูนี้จะมีอยู่สามส่วนด้วยกัน ก้นแก้วเป็นเยลลี่รสมะม่วง ตามด้วยน้ำมะม่วงปั่นรสหอมหวาน และ topping ด้วยเนื้อมะม่วงสุกสีเหลืองนวลสดใส มะม่วงที่เขาใช้เป็นมะม่วงคัดเกรดนำเข้าจากฟิลิปปินส์เพื่อให้ได้รสชาติที่สม่ำเสมอตลอดทั้งปี โอ้วววว ได้กินแล้วมันสดชื่นจริงๆ ค่ะ เข้าใจแล้วทำไมคนออกันเต็มหน้าร้าน ต่อให้ในวันหิมะตก หมูน้อยก็จะลุยหิมะออกมายืนเข้าคิวกะเขา เชื่อดิ ก็ตั้งแต่วันนั้นมาไม่กลับไปกินชานมไข่มุกอีกเลย

ร้านนี้มีสาขากระจายอยู่ทั่วฮ่องกง เดินๆ ไปเด๋วก็เจอ ตอนนี้ที่สนามบินก็มีแล้วนะคะ อยู่ตรงทางออกเพื่อไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง เรียกว่าเท้าเหยียบฮ่องกงปุ๊ปหาน้ำมะม่วงปั่นกินได้เรย แต่สาขาที่หมูน้อยจะแนะนำนี้ ไม่รู้ทำไม ราคาถูกกว่าสาขาอื่นๆ เกือบ 10 เหรียญ เป็นสาขาที่ตั้งอยู่บน Fa Yuen Street ค่ะ


HLS2 พิกัดร้าน Hui Lau Shan สาขาถนน Fa Yuen Street

เส้นทางไปให้นั่งรถไฟไปลงสถานี Yau Ma Tei ออกที่ทางออก A2 ขึ้นมาจะเจอร้านขายลูกชิ้นเดือด (นอกเรื่องนิสสสนึง ร้านลูกชิ้นเดือดเป็นลูกชิ้นปลากลมๆ ต้มในน้ำซุปแกงกะหรี่ที่กำลังเดือดปุดๆ นิยมในหมู่คนไทย แต่ไม่ค่อยได้ใจหมูน้อยเท่าหร่าย เพราะซุปแกงกะหรี่ที่เขาใช้ต้มเป็นแกงแบบเจือจาง ไม่ได้เข้มข้น หรือเพิ่มรสชาติของลูกชิ้นมากนัก แค่ช่วยทำให้ลูกชิ้นมีสีแดงน่ากินเท่านั้น สู้ลูกชิ้นปลาทอดแพนด้าถุงละ 25 บาทบ้านเราไม่ได้เร้ย ขอบอก) แล้วเดินตามเส้นทางสีน้ำเงินในรูป HLS2 เลยนะคะ


HLS3 ร้านลูกชิ้นเดือด บริเวณทางออก A2

เดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้ามร้านลูกชิ้นเดือดจะเจอซอยสำหรับคนเดินแคบๆ เดินทะลุซอยนี้ไปออก Dundas Street แล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม จากนั้นเดินตามถนน Dundas ไปเรื่อยๆ นับซอยทางซ้ายมือที่เราเดินข้าม ให้เลี้ยวซ้ายตรงซอยที่ 3 เลี้ยวมาก็จะเป็น Fa Yuen Street แล้วค่ะ เดินตามถนน Fa Yuen ไปประมาณ 50 เมตร ร้านจะอยู่ทางขวามือ สีแดงเด่นตามรูป HLS4 เลยจ้า


HLS4 หน้าร้าน Hui Lau Shan บนถนน Fa Yuen


HLS5 บริเวณภายในร้าน Hui Lau Shan บนถนน Fa Yuen

สาขานี้นอกจากราคาถูกแล้วยังใหญ่กว่าสาขาทั่วไปมาก ด้านในร้านมีโต๊ะให้นั่งกินขนมและน้ำผมไม้ปั่นเป็นสิบโต๊ะเลย ใครเดิน shopping จนเมื่อยก็มานั่งพักน่องกันได้ค่ะ กินน้ำผลไม้ปั่นหวานๆ ให้มีแรงสักนิด แล้วค่อยออกไปลุยต่อ หรือถ้ากำลังหาซื้อของฝากกลับไปฝากเพื่อนๆ ที่เมืองไทย ร้านนี้ก็มีวุ้นผลไม้ packaging เก๋ๆ ขาย ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะคะ


HLS6 ไอศกรีมเกล็ดน้ำแข็งรสสตอเบอรี่ topping ด้วยสตอเบอรี่และแตงโมสด

แต่ถ้าใครยังหาเวลาไปกินน้ำมะม่วงปั่นแสนอาหย่อยที่ฮ่องกงไม่ได้ ลองแวะไปชิมน้ำปั่นของร้าน Yenly Yours ดูนะคะ มีเมนูน้ำมะม่วงปั่นเหมือนของ Hui Lau Shan เลย รสชาติก็ใกล้เคียงกัน คือเป็นรสมะม่วงธรรมชาติ เคยลองกินน้ำมะม่วงปั่นของร้านอื่น มันจะเป็นรสมะม่วงหรือกลิ่นมะม่วงสังเคราะห์ รสชาติมันจะปรี๊ดเกินไป ไม่อาหย่อย สำหรับ Yenly Yours กะ Hui Lau Shan จะแตกต่างกันนิดหน่อยตรงเยลลี่ของ Yenly Yours มีสีเหลืองมะม่วง ส่วนของ Hui Lau Shan จะสีใสกว่า นอกจากนี้เนื้อมะม่วงที่เป็น topping ของ Yenly Yours ชิ้นจะหญ่ายกว่า Hui Lau Shan ค่ะ แต่ความอร่อยเรียกว่าสูสีกัน ร้าน Yenly Yours มีอยู่ 3 สาขา คือ Central World, Central ปิ่นเกล้า และ Mega Bangna จ้า



HLS6 ร้าน Yenly Yours สาขา Central ปิ่นเกล้า

ปล. ไม่ได้ค่าโฆษณานะ แค่อยากแบ่งปันความอาหย่อย
*
*
*
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการรับประทานเหมือนหมูน้อยนะคะ
ติดตามภาพ Behind the screen ได้ที่ 
IG: @aryoihongkong



วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Nathan Congee and Noodle

ร้านนี้ถือเป็นร้านโจ๊กในตำนานเลยทีเดียว หมูน้อยรับรองว่าคุณจะไม่สามารถหากินโจ๊กแบบนี้ได้บนแผ่นดินไทย หลายคนคงเคยได้ยินกิติศัพท์ของโจ๊กฮ่องกงกันมาหลากหลาย บ้างว่าเนื้อโจ๊กนุ่มนวลชวนฝัน บ้างว่าเหลวข้นคล้ายซุปฝรั่ง ร้านนี้ทำให้ซาบซึ้งถึงคำว่า "โจ๊กฮ่องกง" ได้เกินบรรยาย

ไปไม่ยากค่ะ ร้านตั้งอยู่บนถนน Saigon ตรงข้ามกับโรงแรม Novotel การเดินทางให้ใช้รถไฟฟ้าลงสถานี Jordan ทางออก B1 เดินตามถนน Nathan มาเรื่อยๆ ให้นับซอยที่เราเดินข้ามแล้วเลี้ยวขวาตรงซอยที่ 3 ตามรูป NCN1 เลยจ้า



NCN1 พิกัดร้านโจ๊ก Nathan Congee & Noodle

เมื่อเข้ามาบนถนน Saigon ให้เงยหน้ามองหาป้ายตามลูกศรชี้ในรูป NCN2 แล้วเดินไปที่ป้ายเลยค่ะ ตอนหมูน้อยไปครั้งแรกมองหาแต่ป้ายหน้าประตูร้าน เดินวนไปวนมา เซ่อๆซ่าๆ หลายรอบไม่เจอซะที ก้อป้ายหน้าร้านมันมีแต่ภาษาจีนเนาะ อ่านม่ายออก 


NCN2 ป้ายร้านที่เป็นภาษาอังกฤษ

แต่จริงๆ หน้าร้านเขาออกจะโดดเด่น เตะตาคนไทยยิ่งนัก เพราะเคยมีรายการโทรทัศน์ของไทยมาถ่ายด้วยดูรูป NCN3 จิ "ไม่ลองไม่รู้" แถมยังมีเมนูชวนชิม "โจ๊กเป๋าฮื้อ เกี๊ยวบะหมี่ บะหมี่ลูกชิ้นปลา" ติดไว้ให้เหล่าลูกค้าชาวไทยได้อ่านตั้งแต่ยังไม่ก้าวเท้าเข้าร้านเบย


NCN3 ป้ายรายการ "ไม่ลองไม่รู้" ติดอยู่หน้าร้าน

ช้าก่อน อย่าเพิ่งตื่นเต้นกะป้ายภาษาไทยหน้าร้านมากไปนัก เข้าไปข้างในร้านก่อนค่ะ ร้านนี้เป็นห้องแถวเล็กๆ ขนาด 1 คูหา ข้างในมีโต๊ะอยู่ประมาณ 7-8 โต๊ะเท่านั้นเอง ลูกค้าที่นั่งกินกันอยู่ส่วนใหญ่ก็พูดไทยกันชัดแจ๋ว ไม่แปลกใจเพราะร้านนี้เป็นระดับ legend นี่นา พอเราเลือกโต๊ะได้แล้วนั่งลงปุ๊ป พนักงานจะเข้ามาถามว่า "อาลาย โจ๊ะปา เกี๊ยวปา ทองโก" กรี๊ดดดดดด นี่ฉันเดินผ่านประตูทะลุมิติของโดเรม่อนกลับมาประเทศไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ ยังค่ะยังไม่พอ ลองเหลือบมองไปบนกำแพงสิเออ เมนูที่ติดไว้มีภาษาไทยด้วย!


NCN4 เมนูภาษาไทย

แหม ช่างเป็นร้านที่อบอุ่นเหมือนอยู่บ้านจริงๆ สั่งอาหารเป็นภาษาไทยไปเร้ย ไม่ต้องเกรงใจพนักงานค่ะ คนกันเองทั้งนั้น

แน่นอนว่ามาร้านนี้เพื่อมากินโจ๊กที่เขาเรียกกันว่า "โจ๊กฮ่องกง" มีหลายโจ๊กให้เลือกค่ะ โจ๊กเป๋าฮื้อ โจ๊กไข่เยี่ยมม้าใส่หมู โจ๊กรวมมิตรเครื่องใน โจ๊กปลา โจ๊กหมูสับ โจ๊กไก่ เป็นต้น นอกจากเมนูโจ๊ก ยังมีบะหมี่-เกี๊ยว ลูกชิ้นปลา บ๊ะจ่าง และอื่นๆ อีกที่เขียนเป็นภาษาจีน แฮะๆ



NCN5 โจ๊กปลา

หมูน้อยชอบกินโจ๊กปลาค่ะ ชอบที่ปลาของเขาสด แร่ชิ้นบางๆ หวานอร่อยอย่าบอกใคร แต่เนื้อปลาจะมีก้างเล็กๆ อ่อนๆ นะคะ สามารถเคี้ยวกลืนลงคอไปได้เลย ถ้าใครไม่ถูกกะก้างปลาแนะนำให้สั่งเมนูโจ๊กอื่นดีกว่าค่ะ โจ๊กฮ่องกงนี่กินได้แบบไม่ต้องปรุง รสชาติละมุนเนื้อโจ๊กละไม โอ้วววววยิ่งถ้าไปกินตอนช่วงฤดูหนาว ประมาณพ.ย. - ม.ค. นะ โจ๊กร้อนๆ นี่จะอร่อยขึ้นอีก 20% กินเสร็จร่างกายเราจะอบอุ่นพร้อมออกไปเดินตะลุย shopping สู้ลมหนาวกันต่อทันที


NCN6 ปาท่องโก๋

เมนูต่อมาคือปาท่องโก๋ อาจดูเป็นเมนูธรรมดาๆ บ้านเราก็มี แต่หมูน้อยมีวิธีกินปาท่องโก๋ให้อร่อยเริศมาฝาก ใช้ตะเกียบคีบปาท่องโก๋ลงไปจุ่มๆ ลงในโจ๊กจนชุ่ม เมื่อโจ๊กร้อนๆ เคลือบปาท่องโกจนทั่วชิ้นแล้วจับใส่ปากอย่างรวดเร็วเลยค่ะ (อย่าแช่ไว้นานปาท่องโก๋จะเหนียว) รสชาติของโจ๊กที่ซึมลงไปบวกกับรสชาติของปาท่องโก๋ หวาน มัน เค็ม และกลิ่นน้ำมันหอมๆ ที่เกิดจากการทอด อู้วววว อูมาาาาาามิ ยิ่งนัก นอกจากนั้นเวลาเคี้ยวเราจะสัมผัสได้ถึงความกรอบด้านนอกของตัวปาท่องโก๋ทำให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

NCN7 กินโจ๊กแกล้มปาท่องโก๋ อาหย่อยจุงเบย

สำหรับเมนูอื่นๆ หมูน้อยเคยสั่งบะหมี่เกี๊ยวน้ำมากิน แต่ไม่ได้ตื่นเต้นกับเมนูนี้เท่าไหร่ สงสัยเพราะเทใจให้โจ๊กไปหมดแล้วอ่ะ ชอบตรงเส้นบะหมี่ซึ่งเป็นบะหมี่ไข่เส้นเล็ก กินแล้วไม่อืดท้องดี

NCN8 บะหมี่เกี๊ยวน้ำ

ก่อนจบ...
เด๋วจะหาว่าหมูน้อยเป็นติ่งฮ่องกงจนน่าหมั่นใส้ ไม่รักประเทศไทยเลยรึไง หมูน้อยขอบอกว่าชาติไทยเรามีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก แม้โจ๊กไทยอาจสู้เขาไม่ได้ แต่ขอแนะนำเมนูใกล้เคียง ความอร่อยไม่แพ้กัน อันได้แก่ แต่น แตน แต้นนนนน "ข้าวต้มปลาทู" ที่ร้านข้าวต้มโอ่งจิ๊บ & จ๊อย ร้านอยู่บนเขาสามมุก จังหวัดชลบุรีค่ะ ร้านนี้ใช้โอ่งในการทำ และใส่ปลาทูทั้งตัวลงมาในชามข้าวต้ม ถึงจะเป็นปลาทูทั้งตัว กลับไม่มีความคาวเลยแม้แต่น้อย กินข้าวต้มร้อนๆ กับลมทะเลเย็นๆ ที่พัดขึ้นมาบนยอดเขา ขอบอกคำเดียวว่าอร่อยเหาะ
*
*
*
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการรับประทานเหมือนหมูน้อยนะคะ
ติดตามภาพ Behind the screen ได้ที่ 
IG: @aryoihongkong







วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Din Tai Fung

ครั้งแรกที่ Din Tai Fung น่ะหรอ ไปเจอโดยบังเอิญค่ะ เป็นสาขาในห้าง Silvercord ฝั่งเกาลูน สะดุดว่าร้านนี้ทำไมคนเต็มหน้าร้านเลย สงสัยอร่อยวุ้ย เลยเข้าไปต่อคิวบ้าง พนักงานถามว่า share โต๊ะได้ไม๊ แหมคนกะลังหิว แล้วคิวยาวขนาดนี้ share ก็ share จิ รอแค่สองสามนาทีได้โต๊ะแระ สบายยยยย เขาจัดให้นั่งในห้อง VIP เป็นโต๊ะกลมขนาดโต๊ะจีนบ้านเรานี่แหละ นั่งร่วมกับชาวจีนอีกสองครอบครัว นับเป็นโชคดีที่ได้นั่งโต๊ะ share ค่ะ เขากำลังกินอะไรกันอย่างเอร็ดอร่อย พี่ไทยเราก็สั่งตามเขาเลยสิคะ อิอิ ไม่เห็นจะยาก 


DTF1 เมนู (หน้า)

DTF2 เมนู (หลัง)

สำหรับร้านนี้หมูน้อยขอชื่นชมว่ามีการบริหารจัดการที่ดีมากค่ะ นอกจากเมนูมีภาษาอังกฤษแล้วยังมีภาพประกอบชัดเจน อาหารที่สั่งไปก็รอไม่นาน พนักงานพูดอังกฤษได้ ยิ่งรสชาติและความสดของอาหาร (ที่สั่งตามๆ เขามา) อร่อยจนลืมไม่ลง เรียกว่าเป็นร้านที่ครบเครื่องจริงๆ ไม่ใช่ว่าร้านอาหารในฮ่องกงจะเป็นอย่างนี้ทุกร้านนะ บางร้านไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ หรือพนักงานมาพูดภาษาจีนใส่เราแล้วยังบังคับให้เราฟังเขาให้ได้ด้วย ได้แต่ตอบเขากลับไปว่า "ลื้อจาพูดไรซ้ำๆ ว้า อั๊วฟังไม่ออกตั้งแต่คำแรกเลี้ยวเว้ย" และต้องนั่งกินอาหารที่สั่งมาแบบผิดๆถูกๆ อย่างเซ็ง ม่ายล่ายหลั่งจาย ดังนั้นไปฮ่องกงทีไรหมูน้อยจะไม่ยอมพลาด Din Tai Fung เด็ดขาด


DTF3 Steamed shrimp and pork Shao-Mai

DTF4 Steamed shrimp and pork Shao-Mai

สำหรับเมนูแรกที่หมูน้อยอยากจะแนะนำ ตามรูป DTF3 เลยค่ะ Steamed shrimp and pork Shao-Mai เป็นเสี่ยวหลงเปาหน้ากุ้ง ใส้ข้างในเป็นหมูฉ่ำน้ำซุปร้อนๆ รสนุ่ม จับจีบแล้วโปะด้วยกุ้ง(เบ้อเริ่ม)ทั้งตัว ดูความสดใสของกุ้งใน DTF4 สิคะ อาหารทะเลเขาสดเจงๆ นะเออ กินเข้าไปกุ้งนี่เด้งดึ๋งๆ อยู่ในปาก อาหย่อยฝุดๆ เมนูนี้หมูน้อยจะกินทั้งก้อนในคำเดียว เพื่อให้ได้ดื่มด่ำความอร่อยจากทั้งน้ำซุป หมู และกุ้ง ไปพร้อมๆ กัน แม้จะต้องอ้าปากกว้างสักเท่าไร ภาพตอนกินจะออกมาน่าเกลียดสักเพียงไหน หมูน้อยก็จะทำ เฮอะๆๆ 

DTF5 Steamed crab roe and pork dumpling

ต่อมาในรูป DTF5 เป็นอีกหนึ่งเมนูเสี่ยวหลงเปา Steamed crab roe and pork dumpling ข้างในมีไข่ปูและหมูสับ ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซุปรสกลมกล่อม หมูน้อยแนะนำเวลากินนะคะให้ใช้ตะเกียบคีบที่หัวจุก(ด้านบนตรงที่ถูกจีบเป็นเกลียวน่านแหล่ะ) ค่อยๆ ยกขึ้นมาจากเข่งอย่าให้น้ำซุปรั่ว แล้วยัดใส่ปากทั้งก้อน ยิ่งถ้าน้ำซุปข้างในร้อนๆ หน่อย รสชาติจะแตกกระจายไปทั่วปาก อร่อยเด็ดขาดอย่าบอกใคร


DTF6 วิธีรับประทานเสี่ยวหลงเปา

จะอย่างไรก็ตาม ร้านนี้เขามี Direction ในการกินเสี่ยวหลงเปาด้วยนะคะ (ซึ่งไม่ค่อยเหมือนที่หมูน้อยกินเท่าหร่าย อิอิ) ให้คีบเสี่ยวหลงเปาแล้วเอาตูดมันลงไปแตะน้ำจิ้มเล็กน้อย จากนั้นวางไว้ในช้อน ใช้ตะเกียบจิ้มให้น้ำซุปข้างในไหลออกมา แล้วจะยัดเข้าปากทั้งก้อนเหมือนหมูน้อย หรือค่อยๆ เรี่ยกิน ก็แล้วแต่ตามใจปรารถนาเลยจ้ะ


DTF7 Spicy shrimp and pork wonton

ใครชอบรสจัดจ้านหน่อยขอแนะนำ DTF7 ค่ะ Spicy shrimp and pork wonton เป็นเกี๊ยวไข่ใส้กุ้งและหมู แป้งบาง ราดด้วยน้ำพริกเผาพอขลุกขลิก แต่คนที่กินเผ็ดได้ไม่มากไม่ต้องกลัวว่าจะเผ็ดเกินนะคะ น้ำพริกเผาของเขาไม่เผ็ดมาก แค่พอให้ได้รสชาติและกลิ่นของพริกบ้าง ขนาดคุณสามีของหมูน้อยที่ไม่ชอบทานเผ็ด ยังกินเมนูนี้ได้ตุ้ย ตุ้ย ตุ้ย เบย

เมนูต่อมา ข้าวผัดไข่หน้าหมูทอด DTF8 (Egg fried rice served with deep-fried pork chop) จานนี้จัดหนักจัดใหญ่ หมูชิ้นเบ้อเริ่มโปะข้าวมาแบบสะใจ เขาใช้ข้าวสวยญี่ปุ่นผัดกับไข่เป็ดรสเค็มอ่อนๆ ไข่นี่ใส่มาให้อย่างเยอะ ไม่เหมือนข้าวผัดบ้านเรานะคะที่หาไข่แทบไม่เจอ กินคู่กับหมูสับทอดปรุงรส อร่อยแทบขาดใจ

DTF8 Egg fried rice served with deep-fried pork chop

ปิดท้ายด้วยเมนูไก่ DTF9 Deep-fried Sweet and Sour Chicken with Chili หรือไก่ทอดซอสเปรี้ยวหวาน เป็นเนื้ออกไก่ติดหนัง ทอดจนหนังกร๊อบบบบบกรอบ ไม่เหลือความเลี่ยนเลยซักนิด ส่วนซอสเปรี้ยวหวานรสเข้มข้นก็ซึมซาบเข้าทั้งหนังและเนื้อไก่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!!


DTF9 Deep-fried Sweet and Sour Chicken with Chili

เอาล่ะที่นี้เราจะไปร้านนี้กันยังไง ไปไม่ยากค่ะแค่นั่งรถไฟใต้ดินไปลงสถานี Tsim Sha Tsui จะออกทางออก A1 หรือ L5 ก็ได้ค่ะ


DTF10 พิกัด Din Tai Fung สาขา Silvercord

ตามรูป DTF10 ทางออก A1 เส้นทางสีส้ม ให้เดินบนถนน Haiphong มาเรื่อยๆ จนเจอสะพานรถวิ่งไปมาข้ามหัวเรา ลอดใต้สะพานไปให้มองหาร้าน Sasa ที่อยู่ทางซ้ายมือ (ขวามือจะเป็นสวนสาธารณะ ต้นไม้เยอะๆ) ตามรูป DTF11 นะคะ จะเจอทางเข้าห้างเป็นบันไดเลื่อน ขึ้นบันไดเลื่อนไปเลยค่ะ ร้านจะอยู่ชั้น 3 หาไม่ยาก เพราะร้านใหญ่มาก กินพื้นที่เกือบทั้งชั้น


DTF11 ทางเข้าห้าง Silvercord ด้านข้าง

ถ้าไปออกตรงทางออก L5 ตามเส้นสีน้ำเงินนะคะ ให้ไปออกที่ The Langham Hotel แล้วเดินเลาะไปตามถนน Peking จนสุดทาง เลี้ยวขวา เดินต่อไปตามถนน Canton ห้าง Silvercord จะอยู่ขวามือตรงข้ามกับ Harbour City ค่ะ ตามรูป DTF12 เลย


DTF12 ทางเข้าห้าง Silvercord ด้านหน้า

เมื่อขึ้นบันไดเลื่อนไปถึงชั้น 3 บริเวณหน้าร้านอย่างที่บอกจะมีคนต่อคิวกันอยู่ และมีตุ๊กตาหนูน้อยฮะเก๋ายืนต้อนรับอยู่ด้วย (DTF13) เห็นแล้วเดินเข้าไปแจ้งความจำนงกับพนักงานให้จัดคิวเลยค่ะ ร้านนี้ลูกค้าคนไทยน่าจะเยอะมิใช่น้อย เพราะนอกจากจะมีเสียงเรียกคิวเป็นภาษาจีนกับอังกฤษแล้ว ยังมีเป็นภาษาไทยสำเนียงจีนด้วย! น่ารักไปอีกแบบ

ถ้าไม่อยากรอคิวนาน หมูน้อยแนะนำให้ไปช่วงบ่ายสามบ่ายสี่ หรือไม่ก็ดึกๆ ไปเลยค่ะ ถ้าไปตอนที่คนปรกติเขากินข้าวกัน ต้องทำใจหน่อยนะคะ ยืนรอจนเมื่อยอ่ะ

DTF13 ตุ๊กตาหนูน้อยฮะเก๋า ยืนยิ้มต้อนรับอยู่หน้าร้าน

จริงๆ แล้ว Din Tai Fung มีสาขาที่เมืองไทยด้วยนะคะ อยู่ที่ Central World กับ Central Embassy ไปลองกินกันได้ แต่หมูน้อยเข้าใจว่าสาขาที่เมืองไทยน่าจะสืบเชื้อสายมาจากที่สิงคโปร์ เพราะรสชาติคล้ายๆ กัน เมนูก็คล้ายๆ กัน เคยไปกินมาหมดแล้วทั้งสามประเทศ ชอบที่ฮ่องกงที่สุด

ดูความแตกต่างระหว่างฮ่องกงกะไทยนะคะ ถึงแม้จะเป็น Din Tai Fung เหมือนกัน เปรียบเทียบเมนูเดียวกันในรูป DTF14 กุ้งที่ฮ่องกงตัวใหญ่จนจะตกลงมาจากเกี๊ยวอยู่แว้วววว ของที่เมืองไทยตัวใหญ่กว่ากุ้งแห้งนิดเดียว 555 (ล้อเล่นนน) มิใช่แค่ size กุ้งนะจ๊ะ เนื้อหมูข้างในเกี๊ยวก็ไม่เหมือนกันค่ะ หมูของไทยจะสีออกคล้ำๆ เหมือนหมูสันใน ที่สิงคโปร์หมูจะมีสีแดงเข้มเหมือนหมูไม่สุก(แต่สุกนะ) ส่วนที่ฮ่องกงหมูจะมีสีขาวอมชมพูค่ะ ใครเคยกินที่เมืองไทยแล้วไม่ประทับใจเท่าหร่าย หมูน้อยแนะนำให้รีบจองเลยนะคะ จองตั๋วเครื่องบินไปฮ่องกงกันเร้ย


DTF14 เปรียบเทียบ Hong Kong vs. Bangkok

สำหรับ Din Tai Fung สาขาที่เมืองไทย หมูน้อยขอแนะนำ "ซุปซี่โครงหมูตุ๋นมะระ" ค่ะ ซี่โครงหมูตุ๋นจนร่อนและนุ่มมาก เรียกว่าละลายในปากกันเลย น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม ส่วนมะระไม่มีความขมเลยซักนิดแม้เวลากินจะมีรสมะระอยู่ชัดเจนก็ตาม

*
*
*
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการรับประทานเหมือนหมูน้อยนะคะ
ติดตามภาพ Behind the screen ได้ที่ 
IG: @aryoihongkong



ทำไมต้องฮ่องกง?

ฮ่องกงถือเป็นประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวไทย เพราะไปง่าย อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทยนัก ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมงเอง วีซ่าก็ไม่ต้องขอ นึกอยากจะไปเมื่อไหร่ก็ไปได้เล้ยยย นอกจากนี้ฮ่องกงยังมีสิ่งน่าสนใจหลากหลาย ผสมผสานทั้งความเจริญทางวัตถุ ความเชื่อทางวัฒนธรรม และธรรมชาติอันงดงาม บางคนไปฮ่องกงเพื่อ shopping ของ brand names ราคาถูก บางคนไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธ์ หรือไปเที่ยว Disney land แต่สำหรับหมูน้อย เป้าหมายเดียวเท่านั้นค่ะ แค่ได้กินอาหารอร่อยๆ ก็คุ้มเกินคุ้มแว้ววววว




อารายกานนนน อาหารแบบที่ฮ่องกง บ้านพ่อบ้านแม่ฉันก็มี ทำไมต้องถ่อสังขารเสียเงินเสียทองไปกินด้วย?


บอกเลยค่ะว่ามันไม่เมื้อน ไม่เหมือน ทั้งรสชาติ วัตถุดิบที่ใช้ texturesของอาหารที่ปรุงเสร็จ และความสดของอาหารทะเล ทุกสิ่งอย่างถูกทำออกมาเป็นอาหารง่ายๆ แต่อร่อยอย่างน่ามหัศจรรย์ ไม่อย่างนั้นจะมีผู้คนจากทั่วโลกหลงไหลไปลิ้มลองกันทั้งปีหรอ ช่ายอ่ะ

ตอนไปเที่ยวฮ่องกงใหม่ๆ หมูน้อยก็เหมือนคนไทยส่วนใหญ่ ไปกินตามร้านอาหารในลายแทงที่มีคนโพสต์นั่นแหละค่ะ เลยกลายเป็นเรื่องตลก เมื่อเข้าไปในร้าน เราจะพบคนไทยนั่งกินกันอยู่เต็มร้านเลย แหม่ก็พวกเรามีลายแทงเดียวกันนี่นา อิอิ แต่ว่านะ ร้านบางร้านคนไทยนั่งกินเต็มร้าน หมูน้อยกลับรู้สึกว่ามันไม่อร่อยสมคำล่ำลืออ่า ฉันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อสิ่งนี้หรือ ง่าาาา หลังๆ มาเริ่มทำการบ้านมากขึ้น หาข้อมูล review ของต่างประเทศด้วย หมูน้อยพบว่าบางครั้งร้านที่มีคนไทยนั่งอยู่เป็นหย่อมๆ ก็อร่อยกว่าร้านที่คนไทยเต็มร้านนะจ๊ะ กินไปกินมาเลยอยากจะมี blog เป็นของตัวเองบ้างไรบ้าง คัดมาเฉพาะร้านที่กินแล้วรู้สึกว่าอาหย่อยจุงเบย ต้องกินอีก กินอีก หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนชอบกินแบบหมูน้อยนะคะ

และขออนุญาตให้คะแนนจานต่างๆ ของแต่ละร้านตามนี้นะ


ติดตามภาพ Behind the screen ได้ที่ 
IG: @aryoihongkong